โครงการเด่น โครงการเพิ่มรายได้โดยการเพาะเห็ดนางฟ้าและแปรรูปเห็ดนางฟ้าแบบปลอดสารพิษ
โดยกลุ่มเยาวชนลูกลิงหัวกาหมิง ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล
ชื่อเรื่อง : แปรรูปเห็ดนางฟ้าสู่การพัฒนาทักษะความกล้าของเยาวชนบ้านหัวกาหมิง
ว่าด้วยเรื่องเห็ดที่ไม่ได้แค่เรียนรู้การเพาะเห็ดและการแปรรูปเห็ด แต่คือเครื่องมือที่ทำให้เด็กกลุ่มหนึ่งเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากเด็กขี้อาย กลัวไมค์ เห็นไมค์แล้วร้องไห้ กลายเป็นคนกล้าพูด กล้านำเสนอ และสามารถนำสิ่งที่ได้จากการทำโครงการไปปรับใช้ในห้องเรียน คือสิ่งที่กลุ่มเยาวชนจากบ้านลูกลิงหัวกาหมิง ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ Satun Active Citizen หรือ โครงการกลไกชุมชนสู่การพัฒนาเยาวชนจังหวัดสตูล ในปีที่ผ่านมา
ต้า - ซานิตา หลังการณ์, ตาต้า - นูรีต้า บัญชะ และ หนูนา - อัสรีนา หาสกุล ตัวแทนเยาวชนจากโครงการเพิ่มรายได้โดยเพาะเห็ดนางฟ้าและแปรรูปเห็ดนางฟ้าแบบปลอดสารพิษ มาร่วมถ่ายทอดสิ่งที่พวกเธอได้เรียนรู้จากการเข้าร่วมโครงการ
ซานิตา นูรีต้าและหนูนา อดีตสาวขี้อายที่ครั้งนี้มานั่งเล่าย้อนวันวานถึงประสบการณ์จากการที่ได้เรียนรู้ แม้ยังมีความอายอยู่บ้างตามประสาเมื่อต้องคุยกับคนแปลกหน้า แต่พวกเธอบอกว่าดีขึ้นกว่าช่วงแรก ๆ ก่อนเข้ามาทำโครงการมาก ทั้งสามคน เล่าว่า ครั้งแรกที่ได้นำเสนอโครงการในที่สาธารณะพวกเธอปล่อยโฮกลางวงนำเสนอ เพราะเป็นครั้งแรกที่ต้องจับไมค์พูด ความตื่นเต้นและความกลัวในวันนั้นยากเกินควบคุม แต่วันนี้พวกเธอมีความมั่นใจมากขึ้น
สำหรับจุดเริ่มต้นของโครงการเพิ่มรายได้โดยการเพาะเห็ดนางฟ้าและแปรรูปเห็ดนางฟ้าแบบปลอดสารพิษ เกิดขึ้นจากความสนใจของสมาชิกภายในทีม กลุ่มเยาวชนเล่าว่า ราคาผลผลิตทางการเกษตรในชุมชนบ้านหัวกาหมิงตกต่ำ มีคนในชุมชนจำนวนหนึ่งเพาะเห็ดนางฟ้าขายได้ราคาค่อนข้างดี อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 60-70 บาท พวกเธอจึงอยากศึกษาเพื่อนำความรู้เรื่องเห็ดมาขยายผลต่อเป็นทางเลือกให้กับคนในชุมชน ดังนั้น เป้าหมายของการทำโครงการในครั้งนี้ คือ การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเพาะเห็ด การแปรรูป รวมถึงเรื่องของการตลาด แต่ก่อนนำข้อมูลและวิธีการที่ได้ศึกษาออกไปเผยแพร่ กลุ่มเยาวชนได้ทดลองเพาะและแปรรูปเห็ดด้วยตัวเอง จนได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ และแน่นอนว่าสร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง
++ เห็ดนางฟ้า...ท้าความกล้า++
หากเอ่ยถึงพื้นฐานความรู้และทักษะ “การเพาะเห็ดและการแปรรูปเห็ดนางฟ้า” มีเพียงหนูนา เพียงคนเดียวเท่านั้นในทีมที่พอทำได้ เนื่องจากพ่อและแม่ของเธอเพาะเห็ดขายอยู่แล้ว กลุ่มแกนนำเยาวชนจึงออกแบบกิจกรรมนำไปสู่การเพาะเห็ดนางฟ้า ด้วยการลงพื้นที่ศึกษาเรื่องการเพาะเห็ดจากผู้รู้ 5 ครัวเรือนในตำบลทุ่งนุ้ย แล้วนำมารวบรวมเป็นข้อมูลพื้นฐานเรื่องแนวทางการเพาะเห็ดของโครงการ
กลุ่มเยาวชนประชุมแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบก่อนลงพื้นที่เก็บข้อมูล หนูนารับหน้าที่ถ่ายภาพ ซานิต้ารับหน้าที่สัมภาษณ์ผู้รู้ และนูรีต้าคอยจดข้อมูลเพื่อนำมาหาข้อสรุป
จากการสรุปข้อมูบ พบว่า บ้านแต่ละหลังมีสูตรเฉพาะในการเพาะเห็ดไม่เหมือนกัน บางบ้านใช้น้ำตาลเป็นส่วนผสม แต่บางบ้านใช้รัมเป็นส่วนผสม แล้วแต่สูตรของแต่ละคน
“วันที่พวกเราไปสัมภาษณ์ ไปถึงเราแนะนำตัวก่อนว่าพวกเราเป็นใคร มาทำอะไรแล้วค่อยเริ่มถามข้อมูลที่เราอยากรู้เกี่ยวกับการเพาะเห็ด มีเขินบ้างนิดหน่อยแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ” นูรีต้า เล่าถึงบรรยากาศการทำงาน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้พวกเธอหวั่นใจมากที่สุด คือการนำเสนอข้อมูลในเวทีกลางเกี่ยวกับเห็ดที่เก็บรวบรวมได้ แม้เตรียมข้อมูลมาอย่างดี ทั้งเรื่องวิธีการเพาะ อุปกรณ์ที่ใช้ และการดูแลเห็ด มีการซักซ้อมการนำเสนออยู่หลายหน แต่สุดท้ายก็ตกม้าตายร้องไห้เพราะกลัวไมค์กันทุกคน
“ตอนนั้นพวกเรากลัว เพราะไม่รู้จักใครเลยสักคนในเวทีนั้น เป็นเวทีแรกที่ได้เจอกับเพื่อนต่างโครงการ”
ทั้งสามคนพยายามสื่อสารความกลัวในวันนั้นพร้อมกันแบบประสานเสียง แม้จะเป็นชั่วโมงที่กดดันที่สุดของการทำโครงการ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ ด้วยเคล็ดลับที่แทบไม่น่าเชื่อว่าจะใช้ได้ผล “เวลาที่หนูพูดจะให้เพื่อนถือไมค์ให้ค่ะ หนูไม่ถือเองเพราะถ้าถือเดี๋ยวพูดไม่ออก”
ถือว่าเป็นการใช้ไหวพริบที่ทำให้สามารถผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้ด้วยดี
++ เห็ดนางฟ้า...ท้าทดลอง++
แม้ต้องเสียน้ำตากันไปบ้าง กับการนำเสนอผลการทำโครงการในครั้งแรก แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคหยุดยั้งความขี้สงสัยและความอยากรู้อยากลองของพวกเธอ กิจกรรมที่น่าตื่นเต้นลำดับต่อไป คือ การลงมือทำก้อนเห็ดนางฟ้า
ก้อนเห็ดจำนวน 300 ก้อน !! คือโจทย์ที่ พิเชษฐ์ เบญจมาศ หรือที่น้อง ๆ เรียกกันจนติดปากว่า “บังเชษฐ์” เจ้าหน้าที่โครงการ Satun Active Citizen ตั้งเป้าให้กับพวกเธอ ขี้เลื่อยร้อยกว่ากิโลกรัม ถูกสั่งมาใช้ในการทำงานค่อยๆ ทยอยมาส่ง และวางรวมไว้หน้าบ้านของ อดุลย์ หาสกุล พี่เลี้ยงโครงการฯ ซานิต้า นูรีต้า หนูนา และเพื่อนๆ ใช้เวลาช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ นัดแนะเวลามาช่วยกันทำก้อนเห็ดนางฟ้า แม้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลจากผู้รู้มาแล้ว แต่เมื่อต้องลงมือทำจริงๆ คนที่ให้ความรู้ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่อดุลย์ พี่เลี้ยงของพวกเธอนั่นเองที่คอยสอนขั้นตอนการทำก้อนเห็ด
“ตอนแรกรู้สึกยากมากพราะไม่เคยทำมาก่อน” ซานิต้า บอก ส่วนที่ยากที่สุดสำหรับเธอ คื อตอนอัดขี้เลื่อยให้แน่น เพราะต้องใช้กำลังพอสมควร ส่วนหนูนาที่พอมีทักษะอยู่บ้างจากการช่วยงานที่บ้าน ก็ได้นำความรู้มาช่วยพี่เลี้ยงถ่ายทอดให้กับเพื่อน ๆ อีกแรง
“ตอนทำก็มีแอบบ่นกันค่ะ ว่าเยอะจัง แต่พอทำเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้เยอะอย่างที่คิด ทำไปทำมาสนุกดีค่ะ เพราะได้มานั่งทำกับเพื่อนๆ ” หนูนา กล่าว
พวกเธอบอกว่าขั้นตอนที่ยากที่สุดอีกอย่างสำหรับเธอคือ ขั้นตอนการนิ่งก้อนเห็ดเพาะเชื้อ เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่กลุ่มเยาวชนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ยาก” เพราะแต่ละครั้งต้องใช้เวลาในการนิ่งค่อนข้างนาน หากดูแลไฟไม่ดี ก้อนเห็ดอาจสุกไม่เท่ากัน ทำให้ก้อนเห็ดที่ได้ไม่สมบูรณ์หากนำไปเพาะอาจทำให้ขึ้นราได้ แต่ดูเหมือนความร่วมมมือของกลุ่มเยาวชน ที่อาจมีเวลาว่างตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง สุดท้ายก้อนเห็ดนางฟ้าก็ถูกนำเข้าโรงเรือนเพื่อทำการเพาะเลี้ยงต่อไป กลุ่มเยาวชน บอกว่า ใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่งเดือนเพื่อรอเห็ดนางฟ้าออกดอก พร้อมนำไปแปรรูปเป็นเมนูเห็ดแสนอร่อย
ระหว่างที่รอเห็ดในโรงเรือนออกดอก สิ่งที่พวกเธอทำต่อไป คือ การหาข้อมูลเกี่ยวกับการแปรรูปเห็ดทั้งจากคนในชุมชนและจากอินเทอร์เน็ต เพื่อนำมาตัวเลือกสำหรับการแปรรูปเห็ดรสเด็ดฝีมือกลุ่มเยาวชนลูกลิงหัวกาหมิง
++แหนมเห็ด...เด็ดใช่ย่อย ++
เห็ดเป็นผลผลิตที่ค่อนข้างมีอายุสั้นในการเก็บรักษา ทีมงานจึงวางแผนหาข้อมูลเกี่ยวกับการแปรรูปเห็ดนางฟ้า เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้น ผ่านกรรมวิธีการถนอมอาหาร เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเห็ดนางฟ้าผ่านการแปรรูปอาหาร
เห็ดสวรรค์ ลูกชิ้นเห็ด ข้าวเกรียบเห็ด เห็ดสมุนไพร แหนมเห็ด คือเมนูที่ในเช็คลิสต์ที่กลุ่มเยาวชนนำมาประชุมหารือกัน เพื่อเลือกเมนูที่คิดว่าเหมาะกับการแปรรูปมากที่สุด
“แหนมเห็ด” เป็นเมนูที่ได้ไปต่อ!!
กลุ่มเยาวชน บอกว่า ช่วงแรกกังวลใจอยู่ไม่น้อย แม้ได้เมนูในการแปรรูปแล้ว แต่ยังไม่มีผู้รู้ที่สามารถข้ามาสอนการทำแหนมเห็ดให้กับพวกเธอได้
“ตอนนั้นเครียดค่ะ เพราะว่าพวกเราในทีมไม่มีใครทำแหนมเห็ดเป็นเลย แต่โชคดีได้ก๊ะเนตร อาสาเข้ามาสอนการทำแหนมเห็ดให้ ตอนที่รู้ว่าก๊ะจะเข้ามาสอนให้ดีใจมาก” นูริต้า เล่า
ก๊ะเนตร หรือ ยุพาพร ปะดุลัง เจ้าหน้าที่โครงการ Satun Active Citizen อาสาเข้ามาให้ความรู้เรื่องการทำแหนมเห็ดแก่กลุ่มเยาวชน พวกเธอตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้จากก๊ะเนตรอย่างเต็มที่ จดสูตรส่วนผสมและขั้นตอนการทำลงในสมุดอย่างครบถ้วน เพราะรู้ว่าการฝึกฝนครั้งต่อไป ต้องเป็นพวกเธอที่รับผิดชอบทำกันด้วยตัวเอง
ข้าวเหนียวสุก กระเทียมโขลก พริกขี้หนูสด เห็ดนางฟ้าลวก และเกลือ คือ ส่วนผสมหลักที่ใช้ในการทำแหนมเห็ดนางฟ้า ที่ขาดไม่ได้ คือ หนังยาง และถุงพลาสติก สำหรับการบรรจุหีบห่อ
หนูนาบอกว่าขั้นตอนที่ยากไม่ได้อยู่ที่ตอนผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน แต่ที่คือตอนที่ต้องมัดหนังยางให้แน่นเพื่อให้ได้ทรงของแหนมที่สวยน่าทานมากกว่า เธอบอกว่ากว่าจะมัดได้แต่ละชิ้นเล่นเอาเจ็บมืออยู่เหมือนกัน
“หลังจากทำเสร็จแล้วพักแหนมไว้ประมาณ 3-4 วัน จึงสามารถนำมารับประทานได้ พวกหนูทำประมาณ 4-5 ครั้ง ทำเสร็จแล้วลองเอาไปให้พี่ๆ ในโครงการฯ ทานกัน เขาบอกว่าอร่อย ตอนนั้นก็รู้สึกดีใจ มีแอบยิ้มบ้างเล็กน้อยค่ะ” พวกเธอเล่าไปยิ้มไป สัมผัสได้ถึงความภูมิใจที่มีต่อการทำแหนมเห็ดที่ได้ลงมือทำกันด้วยตัวเอง
++แหนมเห็ด In the market ++
“พวกเรามั่นใจว่าขายได้ เพราะว่ามันอร่อย”
เมื่อตกลงกันได้ว่าจะวางแหนมเห็ดขายอย่างเป็นทางการ กลุ่มเยาวชนจึงประชุมเพื่อหาราคากลางที่เหมาะสม โดยมีบังเชษฐ์เข้ามาช่วยให้ความรู้เรื่องการตั้งราคา ได้ข้อสรุปอยู่ที่กิโลกรัมละ 300 บาท ขายเป็นลูกอยู่ที่ 3 ลูก 10 บาท
นูริต้า ซูนาต้า หนูนาและเพื่อน ๆ แบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ ตอนขายพวกเธอยอมรับว่ามียังมีอาการเขิน อายอยู่เหมือนเดิม แต่เวลาลูกค้าเดินเข้ามาสอบถามราคาก็กล้าพูดคุยแนะนำ เพราะลงมือทำด้วยตัวเองจริงสามารถตอบคำถามต่างๆ ได้ พวกเธอผลัดกันเชิญชวนลูกค้าให้เข้ามาแวะชิม แวะชมแหนมเห็ดนางฟ้า
แม้แอบกังวลในใจว่าว่าแหนมเห็ดที่นำมาอาจขายไม่หมด เพราะสภาพอากาศไม่เป็นใจ เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดออก บวกกับตำแน่งที่วางขายไม่มีหลังหลบแดดหลบฝน แต่ผ่านไปสองวันพวกเธอก็ขายแหนมเห็ดนางฟ้า 3 กิโลกรัมจนหมดเกลี้ยง
รายรับครั้งแรกเป็นจำนวนเงินพันกว่าบาท เงินก้อนแรกจากการขายแหนมเห็ดที่ทำเองกับมือ สร้างความภาคภูมิใจและทำให้พวกเธอดีใจอย่างบอกไม่ถูก
++ก้าวข้ามความกลัว...ด้วยการเผชิญหน้า++
ตลอดระยะเวลาที่ทำโครงการ กลุ่มเยาวชนได้ลงสนามฝึกฝนทักษะหลากหลายด้าน ทั้งการพูดในที่ชุมชน การสัมภาษณ์ การเพาะเห็ด หรือแม้แต่การสวมบทเป็นแม่ค้าขายแหนมเห็ด แต่การนำเสนอโครงการยังเป็นสิ่งที่พวกเธอรู้สึกกังวลใจ และยังคงกล้าๆ กลัวๆ ที่จะรับบทบาทนั้น
“ใครเป็นคนนำเสนอให้คนนั้นมายืนอยู่ตรงกลาง เพื่อนที่เหลือยืนรอบทั้งสองข้าง และคอยจับไมค์ให้กับเพื่อนที่นำเสนอโครงการ” เทคนิคน่ารัก ๆ ที่พวกเธอยังคงใช้กันอยู่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองและเพื่อนๆ ในกลุ่มหากมีโอกาสได้พูดในที่ชุมชน
ทางออกที่ใช้ได้ผลดีมาก ๆ ช่วยให้ทีมงานข้ามผ่านความกลัวแต่ละครั้งไปได้
เมื่อชวนทั้ง 3 สาวทบทวนถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเองที่เกิดขึ้นหลังจากทำโครงการฯ หนูนา กล่าวว่า
“สิ่งที่รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปคือเรื่องการพูด ก่อนหน้านี้ไม่กล้าพูดกับคนอื่น หลังจากทำโครงการนี้ช่วยให้กล้าพูดมากขึ้น เวลาเจอคนในชุมชนก็ทัก กล้าคุย เมื่อกล้าพูดทำให้เรารับรู้ข่าวสารจากคนอื่นมากขึ้น และนำเอาทักษะการพูดไปใช้ในห้องเรียนด้วย ก่อนหน้านี้เวลานำเสนองานจะอยู่หลังเพื่อนตลอด ตอนนี้กล้ามากขึ้น กล้าออกมายืนแถวเดียวกับเพื่อนเวลาต้องนำเสนองานหน้าชั้นเรียน”
นูริต้าบอกว่าสิ่งที่เธอได้มากที่สุดในโครงการนี้คือเรื่องความตรงต่อเวลา จากเดิมคิดมาเมื่อไรก็มา มาช้าบ้างสายบ้าง แต่หลังจากเริ่มทำโครงการได้สักระยะตนพบว่า ไม่อยากให้เพื่อนต้องรอตัวเองอีกต่อไป เวลาเพื่อนนัดทำกิจกรรมจึงพยายามมาให้ตรงเวลามากขึ้น นอกจากนี้ เธอยังรู้สึกชอบการขายแหนมเห็ด เพราะได้พูดคุย ชักชวนลูกค้าให้เข้ามาอุดหนุนสินค้าของเธอ ยิ่งลูกค้าซื้อแหนมเห็ดจากเธอ เธอยิ่งรู้สึกภูมิใจ
ด้านซานิตาบอกว่าสิ่งที่ตัวเองเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคือความกล้าแสดงออก จากเดิมไม่กล้าจับไมค์ ไม่กล้าพูดนำเสนอโครงการ ถ้าเทียบกับปัจจุบันนี้เธอสามารถพูดนำเสนองานได้ จนครูในโรงเรียนเองแปลกใจที่เธอกล้าพูดมากขึ้น การได้ลงพื้นที่ ได้ไปพบปะผู้คน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้วิธีการเพาะเห็ด เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เธอกล้าพูดมากขึ้น
จากหญิงสาวขี้อายที่เคยเสียน้ำตากันทั้งกลุ่มเพราะต้องจับไมค์นำเสนอข้อมูลโครงการครั้งแรก กลุ่มเยาวชนลูกลิงหัวกาหมิงค่อยๆ หาทางรับมือกับความเขินอาย เรียนรู้การเข้าสังคม พยายามก้าวข้ามความกลัว จนสามารถพัฒนาความกล้าและความมั่นใจในตัวเองได้ในที่สุด ถือเป็นภาพความสำเร็จของโครงการที่ได้มากกว่าความรู้เรื่องการเพาะเห็ด แต่เป็นทักษะติดตัวเป็นประโยชน์กับพวกเธอในอนาคต
+++++++++++++++++++++
บทสัมภาษณ์โครงการเด่น โครงการเพิ่มรายได้โดยการเพาะเห็ดนางฟ้าและแปรรูปเห็ดนางฟ้าแบบปลอดสารพิษ
โดยกลุ่มเยาวชนลูกลิงหัวกาหมิง ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล
แกนนำเยาวชน
- ซานิตา หลังการณ์ ชื่อเล่น ต้า อายุ 15 ปี ระดับการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนควนโดนวิทยา
- นางสาว นูรีต้า บัญชะ ชื่อเล่น ต้า อายุ 15 ปี ระดับการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนควนโดนวิทยา
- อัสรีนา หาสกุล ชื่อเล่น หนูนา อายุ 15 ปี ระดับการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนควนโดนวิทยา
ถาม : เล่าที่มาที่ไปให้ฟังหน่อยใครเป็นคนต้นคิดทำไมถึงเลือกทำเกี่ยวกับการแปรรูปเห็ดนางฟ้า
ตอบ (นูรีต้า) ช่วยกันคิดค่ะ
ถาม : ที่ชุมชนหรือหมู่บ้านของเราเขาทำเห็ดนางฟ้ากันเยอะ หรือว่าเราชอบกินเห็ดนางฟ้า
ตอบ : (นูรีต้า) ก็มีคนทำอยู่บ้างค่ะ
ถาม : ในหมู่บ้านใช่ไหมคะ
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : แล้วครอบครัวของเรา ในกลุ่ม มีใครที่ทำเห็ดนางฟ้าไหม
ตอบ : (นูรีต้า) หนูนาค่ะ
ถาม : ใครทำ พ่อกับแม่เหรอ
ตอบ : (หนูนา)ค่ะ
ถาม : ทำเยอะไหม
ตอบ : (หนูนา) เยอะอยู่
ถาม : แล้วบ้านนูรีต้ากับซานิตาทำไม
ตอบ : ไม่ได้ทำ
ถาม : จะมีที่บ้านหนูนาที่ทำเกี่ยวกับเห็ดนางฟ้า ขายดีไหม ทำไมเขาถึงปลูกกัน
ถาม : (นูรีต้า) ขายดีค่ะ
ถาม : เขาขายกันอย่างไร ขายเป็นกิโลกรัมเหรอ
ตอบ : (นูรีต้า)ขายเป็นกิโลกรัมค่ะ กิโลกรัมละ 60 – 70 บาท
ถาม : ถือว่าแพงไหม
ตอบ : (หนูนา)ไม่แพงค่ะ
ถาม : ถ้าปกติแบบแพงสุดเท่าไร จำได้ไหม ถึงร้อยไหม
ตอบ : (หนูนา)กิโลกรัมละร้อยกว่าบาท
ตอบ : แต่ว่าอันนี้อยู่ที่ 60 – 70 บาท ใครก็ได้เล่าให้ฟังหน่อยสิ อยากรู้ว่าทำไมถึงเลือกทำโครงการเพาะเห็ดนางฟ้า ก่อนหน้านี้อยากทำโครงการอื่น อยากทำเรื่องอื่นไหม หรือพอเขามาประชุมแล้ว เราอยากทำเพาะเห็ดนางฟ้าเลย ลองเล่าย้อนให้พี่ฟังหน่อย
ตอบ : (นูรีต้า) อยากทำเห็ดนางฟ้าเลย
ถาม : ใครเป็นคนเสนอว่าอยากทำเห็ดนางฟ้าจำได้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ช่วยกันคิดค่ะ
ถาม : ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ ถึงรู้สึกว่าทำเห็ดนางฟ้าดีกว่า เราเห็นคนในชุมชนเขาทำ
ตอบ : (นูรีต้า) เพราะพี่เลี้ยงทำอยู่แล้ว
ถาม : พี่เลี้ยงเราทำเห็ดนางฟ้าอยู่แล้ว ตอนนั้นที่เราทำ เราทำเพราะว่าเราอยากขายเห็ดนางฟ้า หรือว่ามีเป้าหมายอื่น
ตอบ : (นูรีต้า) แปรรูปแล้วก็ขายค่ะ แล้วก็ให้ชุมชนด้วยค่ะ
ถาม :ให้ชุมชนเขาได้รับความรู้เหรอ หรือว่าอย่างไรตอนนั้น
ตอบ : (นูรีต้า) ได้รับความรู้ค่ะ
ถาม : ที่เราบอกในชุมชนเขาก็มีคนเพาะเห็ดนางฟ้าอยู่แล้ว ถ้าถามว่ากี่หลังพอจะรู้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) อย่างละหนึ่งหลัง
ถาม : มีกี่ชุมชน ชุมชนละหนึ่งหลัง
ตอบ : (นูรีต้า) 5 – 6 ชุมชน
ถาม : ชุมชนเป็นหมู่บ้านเหรอ หรือหมายถึงอย่างไร ตามความหมายของเรา
ตอบ : (นูรีต้า) เป็นหมู่บ้าน
ถาม : อยากให้เราสามคนลองเล่าให้พี่ฟังหน่อยสิ ว่ากิจกรรมที่เราทำในโครงการ เราทำกิจกรรมอะไรบ้างในโครงการ จำได้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) สืบค้นข้อมูล ลงสำรวจ แล้วก็ลงมือทำ
ถาม : มีอะไรอีกไหม เผยแพร่ให้ชุมชนมีไหม
ตอบ : (ซูนิตา) ยังค่ะ
ถาม : หลัก ๆ จะมีสืบค้นข้อมูล สำรวจ แล้วก็ลงมือทำ อย่างสืบค้นข้อมูล เราสามคนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับอะไรบ้าง
ตอบ : (หนูนา) การเพาะเห็ดและการแปรรูปค่ะ อุปกรณ์
ถาม : อุปกรณ์อะไรคะ อุปกรณ์ในการเพาะเห็ดใช่ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : เราไปสืบค้นข้อมูลจากที่ไหน อย่างการเพาะเห็ด การแปรรูป
ตอบ : (นูรีต้า) จากหมู่บ้านที่เขาเพาะเห็ดอยู่แล้ว
ถาม : หมู่บ้านอะไร ทั้ง 5 หมู่บ้านที่เราบอก หรือว่าเราเลือก
ตอบ : (นูรีต้า) ทั้ง 5 เลยค่ะ
ถาม : มีหมู่บ้านอะไรบ้างนะ จำได้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) หมู่บ้านน้ำร้อน หมู่บ้านเกาะใหญ่ หมู่บ้านคุณลุงตง หมู่บ้านกาหมิง หมู่บ้านควนบ่อทอง
ถาม : เราลงพื้นที่ไปถามเกี่ยวกับการเพาะเห็ดห้าหมู่บ้าน ตอนลงพื้นที่ไปสามคนนี้เราแบ่งหน้าที่กัน
ตอบ : (นูรีต้า) แบ่งหน้าที่ค่ะ
ถาม : ใครทำอะไรบ้าง
ตอบ : (นูรีต้า) หนูเป็นคนเขียนค่ะ ซานิต้าเป็นคนสัมภาษณ์ หนูนาเป็นคนถ่ายรูปค่ะ
ถาม : ซานิตาสัมภาษณ์ นูรีต้าเขียน แล้วหนูนาถ่ายรูป แต่จริง ๆ ในทีมเรามีทั้งหมดกี่คน ตอนลงพื้นที่
ตอบ : (นูรีต้า) ห้าค่ะ
ถาม : อีกสองคนทำอะไร
ตอบ : (นูรีต้า) ไปด้วยกัน
ถาม : ตอนลงพื้นที่ลองเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม บรรยากาศเราไปสัมภาษณ์ เราไปทำอะไรบ้าง ลองจำลองสถานการณ์ให้พี่ฟังสักที่หนึ่งก็ได้ว่าเราไปทำอะไรกันบ้าง ตอนแรกเข้าไปทำอะไรกันบ้าง แนะนำตัวก่อนไหม
ถาม : (นูรีต้า) แนะนำตัวก่อน
ตอบ : แนะนำตัวว่า คือเข้าไปแนะนำตัวแล้วก็ไปถามเกี่ยวกับอะไรบ้าง
ถาม : (หนูนา) การเพาะเห็ดแล้วก็อุปกรณ์การทำ
ถาม : ถามทั้งห้าหมู่บ้านเลยเหรอ
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : เขาให้คำตอบเหมือนกันไหม
ตอบ : (หนูนา) ไม่ค่ะ
ถาม : ส่วนใหญ่ที่ให้ข้อมูลแตกต่างกันเป็นเรื่องอะไร เรื่องอุปกรณ์หรือเรื่องการเพาะเห็ดที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน
ตอบ : (หนูนา) เรื่องวิธีการผสม
ถาม : แต่ละหมู่บ้านมันไม่เหมือนกันใช่ไหม ลองยกตัวอย่างให้ฟังหน่อยสิ แต่ละที่ที่เขาแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ตอบ : (หนูนา) เขาใส่เป็นน้ำตาล
ถาม : ถ้าอย่างบ้านลุงตง เขาบอกเหตุผลไหม ว่าทำไมเขาถึงใส่น้ำตาล เพราะ
ตอบ : (หนูนา) ไม่บอกค่ะ เป็นสูตรของเขาโดยเฉพาะ
ถาม : แล้วมีบ้านไหนอีกที่มีสูตรของเขา
ตอบ : (ซานิตา) หมู่บ้านอื่นจะใส่เหมือนกันหมด
ถาม : ส่วนใหญ่หมู่บ้านอื่นจะใช้สูตรเหมือนกันหมด ใส่รัม ตอนที่เราลงพื้นที่ไปห้าหมู่บ้าน เพื่อที่จะไปถามข้อมูลเกี่ยวกับการเพาะเห็ด แล้วอุปกรณ์การเพาะเห็ด มีปัญหาติดขัดอะไรไหม เช่น ไปไม่เจอ หรือว่าได้ข้อมูลไม่ครบ ผู้ใหญ่ที่เขาถามยินดีให้ความรู้ไหม มีปัญหาอะไรไหม
ตอบ : (นูรต้า) ไปแล้วไม่พบ ฝนตกด้วย
ถาม : ที่เราไปแล้วไม่เจอ เพราะว่าอะไร เราไม่ได้นัด หรือว่านัดแล้วเขาไม่อยู่
ตอบ : (หนูนา)ไม่ได้นัด
ถาม : ไม่ได้นัดก็เลยไม่เจอ แล้วบ้านที่เราไปหาแล้วเราไม่เจอเขา เราใช้วิธีการอย่างไร นัดใหม่ ไปหาใหม่ หรือว่าอย่างไร
ตอบ : (หนูนา)ไปหาใหม่
ถาม : ตอนไปหาใหม่ เรานัดเขาหรือเปล่า
ตอบ : (หนูนา) ไม่ค่ะ
ถาม : ไปแบบไม่ได้นัดเหมือนเดิม แต่โชคดีที่เจอ เขายินดีให้ความรู้กับเราทุกคนเลยไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ยินดีค่ะ
ถาม : ไม่มีใครถามว่ามาทำไม เอาข้อมูลไปทำอะไร ไม่มีใช่ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) มีบ้างค่ะ
ถาม : ตอนที่เราลงพื้นที่ไป เราชอบไหม สนุกไหม หรือว่าเบื่อ
ตอบ : (นูรีต้า) สนุกค่ะ
ถาม : ทำไมถึงรู้สึกสนุก สนุกตรงไหน
ตอบ : (นูรีต้า) ได้ขี่รถ
ถาม : ปกติไม่ได้ขี่รถเหรอ
ตอบ : (หนูนา)ปกติแม่ไม่ค่อยให้ออกจากบ้านค่ะ
ถาม : อยู่ไกลกันไหมห้าหมู่บ้าน ใช้เวลากี่วัน
ตอบ : (นูรีต้า) สองวันค่ะ
ถาม : วันเสาร์อาทิตย์เหรอ
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : ก่อนที่เราจะลงไปสัมภาษณ์ เราคุยกันก่อนไหม ว่าเราจะถามข้อมูล จะใช้คำถามอะไรบ้าง ประชุมกันก่อนไหม หรือว่าแค่นัดเฉย ๆ
ตอบ : ประชุมกันก่อนค่ะ
ถาม : ประชุมกันเอง หรือว่าพี่เลี้ยงเป็นคนพาประชุม
ตอบ : (หนูนา) ประชุมกันเองค่ะ
ถาม : ตอนประชุมมีทะเลาะกันไหม
ตอบ : ไม่ค่ะ
ถาม: นูรีต้ารับหน้าที่เป็นอะไรในโครงการ
ตอบ : (นูรีต้า) เป็นเลขาค่ะ
ถาม : ซานิตาเป็นอะไรในโครงการ
ตอบ : (ซานิตา) รองประธานค่ะ
ถาม : หนูนาล่ะ
ตอบ : (หนูนา) เป็นคนดูแลบัญชีค่ะ
ถาม : ก่อนลงพื้นที่เราประชุมกันก่อนใช่ไหม ประชุมอะไรกันบ้าง จำได้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) มานั่งถามกันค่ะ ว่าจะไปบ้านไหนก่อน แล้วถามคำถามอะไร เขียนตั้งไว้ในสมุด แล้วก็ไปค่ะ
ถาม : หมู่บ้านที่เราบอกห้าหมู่บ้าน เรารู้ได้อย่างไรว่าจะไปบ้านไหน พี่เลี้ยงเป็นคนบอก หรือเราไปหาข้อมูลมาก่อน
ตอบ : (นูรีต้า) พี่เลี้ยงเป็นคนบอกค่ะ
ถาม : พี่เลี้ยงเป็นคนบอกว่ามีบ้านไหนบ้าง แล้วเราก็มาประชุมว่าเราจะไปที่ไหนกันบ้าง หลังจากได้ข้อมูลแล้ว เรากลับมาสรุปคุยกันอีกรอบหนึ่งไหม หรือว่าทำอย่างไรต่อ
ตอบ : (นูรีต้า) คุยกันอีกรอบค่ะ
ถาม : คุยอะไรกันบ้าง เล่าให้ฟังหน่อยสิ
ตอบ : (นูรีต้า) คำถามที่พวกหนูไปถามเอามาจากเว็บค่ะ แล้วเอาไปนำเสนอค่ะ
ถาม : นำเสนอใคร
ตอบ : (นูรีต้า) ที่ชมรมค่ะ
ถาม : เป็นอย่างไรบ้าง เล่าให้ฟังหน่อยสิ ตอนไปนำเสนอเป็นอย่างไร ใครเป็นคนนำเสนอ ซานิตาเป็นคนนำเสนอเหรอ เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนำเสนอโครงการ
ตอบ : (ซานิตา) กลัวไมค์ ร้องแล้วค่ะ
ถาม : ใครร้อง
ตอบ : (ซานิตา) ทั้งหมดค่ะ
ถาม : ร้องคือร้องจริง ๆ เหรอ ร้องไห้แบบนี้เหรอ
ตอบ : (ซานิตา) ค่ะ
ถาม : ทำไม ตอนนั้นกลัวเหรอ
ตอบ : (ซานิตา) กลัวค่ะ ไม่รู้จักใครค่ะ แล้วก็สั่นค่ะ
ถาม : คือไม่เคยเจอ เป็นเวทีแรกที่เราไปเจอกับเพื่อน ๆ ในโครงการทั้งหมดด้วยใช่ไหม
ตอบ : (ซานิตา) ค่ะ
ถาม : เป็นอย่างไรตอนนั้น ตื่นเต้น กลัว
ตอบ : (ซานิตา) ตื่นเต้นมากเลยค่ะ แล้วกลัวด้วย
ถาม : สุดท้ายตอนนำเสนอ เราก็นำเสนอได้ใช่ไหม
ตอบ : (ซานิตา) ได้ค่ะ
ถาม : ได้พูดในสิ่งที่เราลงพื้นที่ไปไหม มีนูรีต้าได้นำเสนอด้วยไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ได้ค่ะ แต่ให้เพื่อนถือไมค์ให้ค่ะ หนูไม่ถือไมค์เอง
ถาม : ทำไม
ตอบ : (นูรีต้า) หนูกลัวค่ะ เดี๋ยวพูดไม่ออก
ถาม : ถ้าจับไมค์จะพูดไม่ออก เสียงจะหายใช่ไหม หนูนาล่ะ วันนั้น หนูนานำเสนอด้วยไหม
ตอบ : (นูรีต้า) นำเสนอค่ะ
ถาม : พูดได้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ได้นิดหน่อยค่ะ
ถาม : สามคนนี้ วันนั้นใครเป็นคนพูดเยอะสุด
ตอบ : ซานิตาค่ะ
ถาม : ก่อนไปนำเสนอ ซ้อมกันก่อนไหม
ตอบ : ซ้อมค่ะ
ถาม : เป็นเหมือนที่เราซ้อมไหม
ตอบ : ไม่ค่ะ
ถาม : ตอนซ้อมเป็นอย่างไร
ตอบ : (นูรีต้า) ตอนซ้อมจะแบ่งกันพูดค่ะ คนหนึ่งจะพูดอันนี้ คนหนึ่งจะพูดอันนี้ แต่พอมาจริง ๆ แล้วไม่มีใครกล้าพูดค่ะ
ถาม : ไม่มีใครกล้าพูดเลย เพราะว่าเขิน กลัว แล้วพอหลังจากเวทีนั้น พอผ่านไปได้แล้ว เรารู้สึกอย่างไรบ้าง กลัวน้อยลงไหม หรือว่ากลัวเหมือนเดิม
ตอบ : (นูรีต้า) กลัวน้อยลงค่ะ
ถาม : ตอนนี้ให้พูดนำเสนอจับไมค์ ทำได้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ยังกลัวอยู่ค่ะ
ถาม : ซานิตาล่ะ
ตอบ : (ซานิตา) ได้นิดหนึ่ง
ถาม : หนูนาล่ะ ให้จับไมค์ คิดว่าเราทำได้ดีกว่าครั้งแรกไหม
ตอบ : (หนูนา) นิดหน่อย
ถาม : เวทีนั้นที่เราเอาข้อมูลไปนำเสนอ เรานำเสนอข้อมูลอะไรบ้างนะ
ตอบ : (หนูนา)การเพาะเห็ดอย่างเดียว แล้วก็วิธีการดูแล อุปกรณ์ในการทำ
ถาม : เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากที่นำเสนอเสร็จ พี่ ๆ ให้ข้อมูลหรือข้อเสนอแนะอะไรไหม
ตอบ : (หนูนา)มีบ้างค่ะ
ถาม : เราเอากลับมาไหม จดแล้วปรับแก้ไขไหม
ตอบ : (นูรีต้า) เอากลับมาแก้ไขค่ะ
ถาม : หลังจากนั้นทำอะไรต่อ พอไปนำเสนอเสร็จแล้ว เราลงสำรวจอะไรอีกไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ลงมือทำเลยค่ะ
ถาม : ตอนสืบค้นข้อมูลกับตอนที่ลงสำรวจคือทำด้วยกันเหรอ มีลงสำรวจด้วย
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : ตอนลงมือทำ ลงมือทำอะไรกันบ้าง
ตอบ : (นูรีต้า) ทำก้อนเห็ดค่ะ
ถาม : ทำอะไรอีก
ตอบ : (นูรีต้า) แปรรูปเห็ด
ถาม : มีลงมือทำอะไรอีกไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ไม่มีแล้ว
ถาม : เราไม่ต้องทำที่เพาะใช่ไหม โรงเรือนไม่ต้องใช่ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ไม่ต้องค่ะ
ถาม : เราใช้โรงเพาะเห็ดของใคร
ตอบ : (นูรีต้า) ของพี่เลี้ยงค่ะ
ถาม : พี่เลี้ยงมีอยู่แล้ว เราแค่ทดลองทำก้อนเห็ด ลองเล่าขั้นตอนการทำก้อนเห็ดให้ฟังหน่อย มันยากไหม
ตอบ : (ซานิตา) ยาก เอาขี้เลื่อยมาผสมให้เข้ากับของที่จะทำเห็ดค่ะ แล้วก็ทิ้งไว้หนึ่งคืน พอตื่นมาตอนเช้าก็เริ่มลงมือทำใส่ถุง
ถาม :ตอนที่เราลงมือทำ มีคนมาสอนเรา มีผู้รู้มาสอน หรือว่าพี่เลี้ยงสอน หรือเราไปหาข้อมูลการทำกันเอง
ตอบ : (ซานิตา)พี่เลี้ยงสอนค่ะ
ถาม : พี่เลี้ยงสอน แล้วเราก็เป็นคนทำ
ตอบ : (หนูนา)ค่ะ
ถาม : ยากไหม
ตอบ : (ซานิตา)ยากค่ะ
ถาม : ทำไมยาก ยากตรงไหน
ตอบ : (ซานิตา) เพราะว่าไม่เคยทำค่ะ
ถาม :อย่างนูรีต้ากับซานิตาไม่เคยทำมาก่อน แล้วหนูนา ตอนปกติหนูนาบอกว่าที่บ้านหนูนาทำเห็ดอยู่แล้ว อยู่บ้านหนูนาช่วยที่บ้านทำไหม อย่างนี้ก็ช่วยบอกเพื่อนได้หรือเปล่า สอนเพื่อนไหม
ตอบ: (หนูนา) ก็ช่วย
ถาม: เพราะฉะนั้นสำหรับหนูนาก็ไม่ได้ยาก เพราะว่าเคยทำมาก่อนแล้ว อย่างที่นูรีต้าบอกว่ายาก ตรงไหนที่ยากสำหรับเรา ตอนที่ทำ
ตอบ : (นูรีต้า) ตอนทุบค่ะ เพราะต้องให้ขี้เลื่อยมันแน่นค่ะ
ถาม : อย่างซานิตามีอะไรที่ยากไหม ตอนทำก้อนเห็ด
ตอบ : (ซานิตา) ใส่คอ
ถาม : หมายถึงอันกลม ๆ เหรอ มันยากอย่างไร ต้องแน่นเหรอ
ตอบ : (ซานิตา) มันต้องแน่นค่ะ
ถาม : ตอนที่เราลงมือทำก้อนเห็ด อันนี้ทำก้อนเห็ด มีปัญหาติดขัดอะไรไหม อุปกรณ์พอไหมเพื่อนให้ความร่วมมือกันดีไหม
ตอบ : (ซานิตา) ติดขัดตอนเอาไปนึ่งค่ะ
ถาม : มันเป็นอย่างไร
ตอบ : (ซานิตา) ใช้เวลานาน แล้วถ้าดูแลไฟไม่ดี มันจะไม่สุก มันจะเป็นรา แล้วมันไม่ได้เป็นก้อนเห็ดที่สมบูรณ์
ถาม : แล้วตอนเราทำมีปัญหานี้ไหม มีราขึ้นไหม
ตอบ : (ซานิตา)มีค่ะ
ถาม : ความรู้สึกเราตอนนั้นเป็นอย่างไร เสียใจ ผิดหวัง หรือไม่เป็นไร เดี๋ยวทำใหม่
ตอบ : (ซานิตา)ไม่เป็นไร ทำใหม่
ถาม : เป็นเยอะไหม ที่รามันขึ้น
ตอบ : (หนูนา)ก็ไม่เยอะ
ถาม : ตอนที่เราทำก้อนเห็ด เราทำกันประมาณกี่ก้อน คนละก้อนสองก้อนหรือว่าอย่างไร
ตอบ : (หนูนา)สามร้อยก้อน
ถาม : ทำกันกี่คนตอนนั้น
ตอบ : (หนูนา)ห้าคนค่ะ
ถาม : ก็คือพวกเราในทีมนี่แหละใช่ไหม สามร้อยก้อนมันเยอะหรือมันน้อยสำหรับเราเนี่ย ทำตั้งสามร้อยก้อนเลย
ตอบ : (ซานิตา) ตอนยังไม่ทำรู้สึกว่าเยอะค่ะ แต่พอทำแล้วรู้สึกว่าน้อยค่ะ
ถาม : ตรงนั้นคือเราตกลงกันแล้วใช่ไหมว่าจะทำทั้งหมดสามร้อยก้อน
ตอบ : (ซานิตา)ค่ะ
ถาม : ทำไมตอนนั้นถึงระบุเป็นจำนวนสามร้อยก้อน จำได้ไหม คือคำนวณมาแล้วว่าต้องสามร้อยก้อน หรือว่าอย่างไร
ตอบ : (นูรีต้า)บังเชษฐ์เป็นคนคำนวณให้ค่ะ
ถาม : บังเชษฐ์เป็นคนคำนวณให้สามร้อยก้อน ตอนที่เราได้ยินว่าสามร้อยก้อน เรารู้สึกอย่างไรบ้าง
ตอบ : (นูรีต้า)ตกใจค่ะ
ถาม : ต้าใช้เวลากี่วันสามร้อยก้อน
ตอบ : (นูรีต้า)เป็นอาทิตย์
ถาม : ก็นั่งทำอยู่อย่างนั้น ตอนทำมีบ่นไหม บังเชษฐ์ให้ทำอะไรเนี่ย ตั้งสามร้อยก้อน หรือว่าก็สนุก
ตอบ : (นูรีต้า)มีบ่นค่ะ
ถาม : ใครบ่น
ตอบ : (นูรีต้า)ทั้งหมดเลยค่ะ
ถาม : บ่นว่าอย่างไรบ้าง เล่าให้ฟังหน่อย
ตอบ : (นูรีต้า) เหนื่อย
ถาม : แต่ก็ทำ สนุกไหม พอทำใกล้ ๆ จะครบสามร้อยแล้ว
ตอบ : (นูรีต้า) สนุกค่ะ
ถาม : ชอบอะไรที่สุดตอนนั่งทำก้อนเห็ดสามร้อยก้อน ลองเล่าบรรยากาศที่ประทับใจก็ได้
ตอบ : (นูรีต้า) ตอนทุบค่ะ
ถาม : ทำไม ได้ระบายเหรอ
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : ชอบตอนทุบกันหมดเลย สามร้อยก้อน เรารู้ไหมว่าต้องเตรียมขี้เลื่อย ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรเรารู้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) รู้ค่ะ
ถาม : ตอนนั้นจำได้ไหมว่าขี้เลื่อยต้องใช้ประมาณเท่าไร ถึงจะพอสามร้อยก้อน
ตอบ : (นูรีต้า) ประมาณร้อยกว่ากิโลกรัมต่อวัน
ถาม : แต่ละวัน ประมาณร้อยกว่ากิโลกรัม อย่างเวลาที่เราต้องเตรียมขี้เลื่อย เตรียมอุปกรณ์ เราเป็นคนไปหามาเอง หรือว่าพี่เลี้ยงคอยช่วย หรือผู้ปกครองเราคอยช่วย
ตอบ : (หนูนา) พี่เลี้ยงคอยช่วย
ถาม : มีอะไรบ้างที่เราทำด้วยตัวเราเอง โดยที่พี่เลี้ยงไม่ได้ช่วย
ตอบ : (หนูนา) แปรรูปเห็ดค่ะ
ถาม : เป็นขั้นตอนการแปรรูปเห็ดนะ แต่ตอนทำก้อนเห็ดจะเป็นพี่เลี้ยงที่คอยหาอุปกรณ์ให้ ตอนที่เราทำก้อนเห็ด ขี้เลื่อยพอไหม อุปกรณ์ครบไหม ตอนทำ
ตอบ : (หนูนา) มีขาดบ้างค่ะ
ถาม : ตอนที่ขาด ขาดอะไร
ตอบ : (หนูนา) ขาดรัม
ตอบ : (หนูนา) เพราะว่าคนต้องการเยอะค่ะ
ถาม : คนต้องการเยอะ หมายความว่า เราทำก้อนเห็ดเสร็จแล้วเราเอาไปเพาะ หรือว่าเราเอาไปขาย
ตอบ : (หนูนา) เอาไปเพาะค่ะ
ถาม : รัมที่คนต้องการเยอะ หมายถึง คนอื่น ๆ ก็ต้องการรัมด้วย มันก็เลยไม่พอ แต่สุดท้ายพี่เลี้ยงก็หามาได้ถูกไหม เรียบร้อย ตอนทำก้อนเห็ดคือทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี อาจจะมีบ่นบ้างว่าทำทั้งหมดสามร้อยก้อน แต่ก็ทำกันจนสำเร็จ แล้วก็เอาไปเพาะใช่ไหม ในโรงเรือนพี่เลี้ยงใช่ไหม
ตอบ : ค่ะ
ถาม : ตอนเอาไปเพาะหรือเอาไปวาง เราจัดแจงกันเองไหม หรือว่าทำสามร้อยก้อนเสร็จแล้วพี่เลี้ยงเอาไปเพาะเอง
ตอบ : (ซานิตา) พี่เลี้ยงเอาไปเพาะค่ะ
ถาม : เรามีหน้าที่แค่ทำให้ สามร้อยเอาไปเพาะ มันใช้เวลาเท่าไร กว่าที่เห็ดนางฟ้าจะออกผลผลิต
ตอบ : (ซานิตา) หนึ่งเดือน
ถาม : แล้วที่เราเอาไปแปรรูปเห็ด เราเอาเห็ดจากที่เราเพาะนี่แหละ หรือว่าเอาเห็ดที่มันมีอยู่แล้วมา
ตอบ : (ซานิตา) ที่เราเพาะ
ถาม : หมายความว่าหลังจากที่เราทำก้อนเห็ดเสร็จแล้ว เราก็รออีกหนึ่งเดือน เพื่อแปรรูปเห็ดใช่ไหม
ตอบ : (ซานิตา) ค่ะ
ตอบ : ระหว่างที่เรารอ กว่าที่เห็ดจะออกดอกให้เราแปรรูปได้ ระหว่างนั้นเราทำกิจกรรมอะไรกันไหม เราทำอะไรกันไหม
ตอบ : (ซานิตา) ไปนำเสนอที่ชมรมค่ะ
ถาม : ยังไปนำเสนออยู่ รายงานความเคลื่อนไหว วันนี้พอไปรายงานความเคลื่อนไหวแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ตื่นเต้นไหม ดีขึ้นกว่าเดิมไหม
ตอบ : (ซานิตา) เหมือนเดิมค่ะ
ถาม : เหมือนเดิม กล้าพูดกว่าเดิมไหมในความรู้สึก
ตอบ : (นูรีต้า)ไม่ค่ะ
ถาม : ยังอายเหมือนเดิม ยังเขินเหมือนเดิม นอกจากไปนำเสนอแล้วมีทำอะไรอีกไหม เก็บข้อมูลเพิ่มเติมไหม หรือว่าแวะเวียนมาคอยดูคอยเช็คไหม
ตอบ : (นูรีต้า)มีค่ะ มีเก็บข้อมูลค่ะ แล้วก็คอยเช็คตอนที่เห็ดกำลังจะออก
ถาม : ระหว่างหนึ่งเดือนนี้ก็ไปนำเสนอข้อมูลด้วย แล้วก็แวะเวียนมาคอยดูคอยเช็ค เราทำบันทึกลงในสมุดลงในกิจกรรมเราไหม หรือแค่มาเช็คดูเฉย ๆ ว่ามันออกดอกแล้วนะ
ตอบ : (นูรีต้า)เช็คดูเฉย ๆ ค่ะ
ถาม : แบ่งเวรกันมาดูไหม หรือใครอยากจะมาดูก็มาดู
ตอบ : (นูรีต้า)ใครอยากมาดูก็มาดู
ถาม : แล้วใครมาดูบ่อยที่สุด
ตอบ : (นูรีต้า)ทั้งหมดค่ะ
ถาม : ถ้ามาทีก็จะมากันเป็นกลุ่ม สมมติว่าวันนี้หนูนาอยากดู หนูนาชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันใช่ไหม
ตอบ : (หนูนา) ค่ะ
ถาม : ตอนที่มาดู ตอนที่เราเห็นว่ามันเริ่มออกปุ่มแล้ว รู้สึกตื่นเต้นดีใจไหม ว่านี่เป็นผลผลิตของเราที่เรานั่งทำนั่งทุบกัน
ตอบ : (หนูนา)ดีใจค่ะ
ถาม : แล้วระหว่างนี้เราหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการแปรรูปไหม หรือว่าอย่างไร
ตอบ : (หนูนา)หาค่ะ
ถาม : ก็คือหาข้อมูลไปด้วยเหรอ ระหว่างเห็ดให้ผลผลิต ตอนที่เราหาข้อมูลการแปรรูปเห็ด เราหาจากคนในชุมชน หรือจากอินเทอร์เน็ต
ตอบ : (หนูนา) อินเทอร์เน็ตด้วย คนในชุมชนด้วย
ถาม : คนในชุมชนนี่เราหาจากไหน เราเลือกจากใคร มีกี่พื้นที่กี่บ้านที่เราลงไปถาม
ตอบ : (หนูนา) ก๊ะเนตรบอกมาค่ะ
ถาม : ก๊ะเนตรคือใคร
ตอบ : (นูรีต้า)คนที่ชมรมค่ะ
ถาม : เขาบอกว่าอย่างไรบ้าง
ตอบ : (นูรีต้า)เขามาสอนวิธีการทำแหนมค่ะ
ถาม : ก๊ะเนตรมาสอนเองเลย สอนการทำแหนมเห็ดใช่ไหม แล้วที่เราบอกว่าเราหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต เราหาวิธีการทำแหนมไหม หรือหาอย่างอื่น
ตอบ : (นูรีต้า)ก็หาการทำแหนมด้วยค่ะ
ถาม : หาการทำแหนม เราหาอะไรอีกไหม
ตอบ : (นูรีต้า)หาหลายอย่างค่ะ
ถาม : เช่น เห็ดมันทำอะไรได้บ้าง ตอนที่เราหา
ตอบ : (นูรีต้า) เอาไปต้มยำค่ะ
ถาม : คือเอาไปแปรรูปเป็นอาหาร แล้วก็ดูว่าเห็ดมันเอาไปทำอะไรได้บ้าง
ตอบ : (หนูนา) ค่ะ
ถาม : ตอนที่เราบอกว่าก๊ะเนตรมาสอน คือก๊ะเนตรเข้ามาบอกว่า ก๊ะสอนให้ หรือว่าเราเป็นคนไปขอความร่วมมือจากก๊ะ
ตอบ : (นูรีต้า) ก๊ะเนตรเข้ามาสอนให้ค่ะ
ถาม : ตอนนั้นเรารู้สึกอย่างไร ดีใจไหม มีคนมาสอนให้แล้ว
ตอบ : (ซานิตา) ดีใจค่ะ
ถาม : ก่อนหน้านี้เครียดไหม ใครจะมาสอน หรือว่าไม่
ตอบ : เครียดค่ะ
ถาม : ที่ว่าเครียดนี่คือเครียดเรื่องอะไร
ตอบ : (นูรีต้า) ทำไม่เป็นค่ะ
ถาม : เราวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเราจะทำแปรรูปเห็ด แล้วเราบอกว่าเราเครียดเพราะเราทำไม่เป็น แล้วได้ก๊ะเนตรก็เลยโล่งใจ
ตอบ : ค่ะ
ถาม : เราลองทำกันก่อนไหม หมายถึงว่าลองทำกันก่อน แปรรูปลองทำกันเองก่อน ทำไม่ได้ก็เลยเครียด หรือว่าอย่างไร
ตอบ : (หนูนา) ยังไม่ลองทำค่ะ
ถาม : ก๊ะเนตรมาสอน เขามาสอนอะไรเราบ้าง
ตอบ : วิธีทำแหนม
ถาม : มันต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง วิธีทำแหนมเห็ด
ตอบ : (หนูนา) ข้าว ยาง กระเทียม พริก ถุง เกลือ เห็ด
ถาม : ลองเล่าวิธีการให้ฟังหน่อยสิ ขั้นตอนไหนยากที่สุดในการทำแหนม
ตอบ : (หนูนา) ผูกถุงให้มันแน่นค่ะ
ถาม : ถ้าผูกไม่แน่นแล้วมันจะเป็นอย่างไร
ตอบ : (ซูนิตา) มันจะไม่สวยค่ะ
ถาม : ถ้าอากาศมันเข้าไปจะเสียไหม
ตอบ : (ซูนิตา) ไม่ค่ะ แต่มันไม่สวย
ถาม : ต้องผูกให้มันสวย ๆ ใช่ไหม ยากไหมตอนผูก
ตอบ : (นูรีต้า) ยากค่ะ เจ็บมือหมดเลยค่ะ
ถาม : ตอนทำเราทำกันเองห้าคนเหมือนเดิมไหม หรือว่าชวนคนในชุมชนมาทำไหม
ตอบ : (นูรีต้า) เหมือนเดิมค่ะ
ถาม : คราวนี้ทำกันกี่ลูก แหนมเห็ด เยอะไหม
ตอบ : (นูรีต้า) เขาคิดเป็นกิโลกรัมค่ะ
ถาม : ตอนนั้นทำกี่กิโลกรัม
ตอบ : (นูรีต้า) รอบแรกพวกหนูทำห้ากิโลกรัมค่ะ
ถาม : ทำกันกี่รอบ
ตอบ : (นูรีต้า) หลายรอบค่ะ
ถาม : ประมาณกี่รอบ
ตอบ : (นูรีต้า) สี่ถึงห้ารอบเลย
ถาม : ทำไมถึงทำเยอะ
ตอบ : (นูรีต้า) ทำให้พวกพี่ ๆ ที่มาจากชมรมมากินด้วยค่ะ
ถาม : รอบแรกห้ากิโลกรัม แล้วรอบต่อ ๆ ไปเพิ่มขึ้นไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ห้ากิโลกรัมเหมือนเดิมค่ะ
ถาม : ก็ทำทีละห้ากิโลกรัมใช่ไหมคะ ถ้าให้เทียบตอนทำครั้งแรก กับตอนที่ทำครั้งที่สี่ครั้งที่ห้า ชำนาญขึ้นไหม หรือว่าเหมือนเดิม
ตอบ : เหมือนเดิมค่ะ
ถาม : รอบแรกก็คือก๊ะเนตรมาสอน แล้วรอบที่สองถึงรอบที่ห้าเราทำกันเอง หรือว่าก๊ะยังมาสอนอยู่
ตอบ : ทำกันเองค่ะ
ถาม : รอบแรกตอนที่ก๊ะมาสอน เราจดไหม อันนี้อัตราส่วนเท่านี้
ตอบ : (หนูนา) จดค่ะ
ถาม : ใครเป็นคนจด
ตอบ : (หนูนา) ช่วย ๆ กันค่ะ
ถาม : ตอนที่เราทำครั้งแรกเลย มันใช้เวลานานไหม กว่าจะกินแหนมได้
ตอบ : (หนูนา) นานค่ะ
ถาม : ประมาณกี่วัน
ตอบ : (นูรีต้า) สามถึงสี่วัน ถึงจะกินแหนมเห็ดได้
ถาม : เราได้ลองชิมฝีมือผลงานของตัวเองไหม
ตอบ : ชิมค่ะ
ถาม : เป็นอย่างไรบ้าง รสชาติ
ตอบ : (นูรีต้า) แต่พวกหนูกินไม่ได้ค่ะ มันมีกลิ่นกระเทียมเยอะค่ะ
ถาม : มันเป็นสูตรที่ต้องใส่กระเทียมเยอะ หรือว่าตอนนั้นเราใส่กระเทียมเยอะเกินไป
ตอบ : (นูรีต้า) เป็นสูตรค่ะ
ถาม : คนอื่นที่เขากินเขาชิมเขาว่าอย่างไรบ้าง ผลตอบรับ
ตอบ : (นูรีต้า) อร่อยค่ะ
ถาม : ตอนที่เขาบอกว่าอร่อย เราภูมิใจไหม ฝีมือของฉันนะ
ตอบ : ใจค่ะ
ถาม : แอบยิ้มไหม
ตอบ : ยิ้มค่ะ
ถาม : ส่วนใหญ่ที่ทำ คือเราทำให้คนอื่นชิมฟรี ๆ หรือเราทำแล้วเอาไปขายด้วย เอาไปขายไหม
ตอบ : (หนูนา) มีค่ะ
ถาม : เอาไปขายตอนนั้น รอบที่สี่รอบที่ห้า หรือรอบอื่น ๆ
ตอบ : (นูรีต้า) รอบสุดท้ายค่ะ
ถาม : เรามาตกลงกันว่าเอาไปขายกันดีกว่าไหม หรืออยู่ในกำหนดกิจกรรมที่เราวางแผนไว้แล้ว ว่าเราจะทำขาย
ตอบ : (นูรีต้า) ในกำหนดกิจกรรมค่ะ
ถาม : มั่นใจฝีมือตัวเองไหม ว่ามันจะขายได้
ตอบ : (นูรีต้า) มั่นใจค่ะ
ถาม : ตอนเอาไปขาย เอาไปขายที่ไหน
ตอบ : (นูรีต้า) วันนั้นเขาจัดงานที่บ่อน้ำร้อน ก็เอาไปขายค่ะ
ถาม : มันเป็นงานอะไร
ตอบ : (นูรีต้า) งานกิจกรรมในโรงเรียน
ถาม : เราก็เลยไปขาย เราเป็นคนจัดการเอง หรือว่าพี่เลี้ยงมาบอกว่ามีกิจกรรมนี้นะ ลองเอาไปขาย
ตอบ : (นูรีต้า) พี่เลี้ยงบอกค่ะ
ถาม : ตอนที่เราไปขายต้องเตรียมไหม ว่าจะเอาไปขายอย่างไร จำนวนเท่าไร ลองเล่าให้ฟังหน่อยสิตอนที่จะเตรียมเอาไปขาย
ตอบ : (หนูนา) ต้องเตรียมว่ามันเหมาะกับราคาเท่าไร
ถาม : แล้วเราขายราคาเท่าไร
ตอบ : (หนูนา) ถ้าเป็นกิโลกรัมก็ประมาณสามร้อยบาท แต่ถ้าเป็นลูกก็สามลูกสิบบาทค่ะ
ถาม : อันนี้คือเห็ดที่ยังไม่ได้แปรรูปใช่ไหม
ตอบ : (หนูนา) ตอนนั้นแปรรูปแล้ว
ถาม : เอาแหนมเห็ดไปขาย ถ้าเป็นกิโลกรัมขายสามร้อยบาท แต่ถ้าเป็นลูกขายสามลูกสิบบาท เราเตรียมไปกี่ลูกที่ไปขายวันงาน
ตอบ : (นูรีต้า) เป็นกิโลกรัมค่ะ
ถาม : เอาไปขายกี่กิโลกรัม
ตอบ : (นูรีต้า) สองถึงสามกิโลกรัม
ถาม : ก่อนวันงานพวกเราก็มานั่งมัดแหนมกันใช่ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนห้าคนเหมือนเดิม มาช่วยกันมัดแหนม ก่อนวันงานกี่วัน อาทิตย์หนึ่งไหม หรือสี่ห้าวัน
ตอบ : สี่ห้าวันค่ะ
ถาม : เราไปหาข้อมูลจากไหน กิโลกรัมละสามร้อยบาท สามลูกสิบบาท
ตอบ : (นูรีต้า) บังเชษฐ์บอกมา
ถาม : ตอนไปขายแบ่งหน้าที่กันไหม สามคนใครเป็นคนเชิญชวน ใครเป็นคนเก็บเงิน ใครเป็นคนขาย
ตอบ : (นูรีต้า)แบ่งค่ะ
ถาม : นูรีต้าทำอะไรในวันงาน
ตอบ : (นูรีต้า) หนูนั่งขายของค่ะ
ถาม : ซานิตาทำไรคะ
ตอบ : (ซานิตา) นั่งเฝ้าร้าน
ถาม : เฝ้าร้านเฉย ๆ เลยใช่ไหม เชิญชวนด้วยไหม แหนมเห็ดค่ะ
ตอบ : (ซานิตา) เชิญชวนด้วย
ถาม : หนูนาล่ะ
ตอบ : (หนูนา)เก็บเงินค่ะ
ถาม : เก็บเงินอย่างเดียวเลย เชิญชวนด้วยไหม
ตอบ : (หนูนา)เชิญชวนค่ะ
ถาม : ตอนไปขายก็ไปขายกันห้าคนเหมือนเดิมไหม
ตอบ : (หนูนา) ไปกันสี่คน
ถาม : เวลาเราไปขายเป็นแม่ค้า เราเขินไหม อายไหม
ตอบ : (หนูนา) เขินค่ะ
ถาม : เวลาที่ลูกค้ามาถาม เรากล้าตอบไหม
ตอบ : กล้าค่ะ
ถาม : เขาถามอะไร
ตอบ : (หนูนา) ขายอย่างไร
ถาม : วันนั้นขายหมดไหม
ตอบ : (นูรีต้า) หมดค่ะ
ถาม : นานไหมกว่าจะหมด
ตอบ : (หนูนา) สองวัน
ถาม : มีงานสองวัน สองสามกิโลกรัมขายสองวันใช่ไหม
ตอบ : (หนูนา) ค่ะ เพราะว่าเขายังไม่ค่อยรู้จักแหนมเห็ดเท่าไร
ถาม : เราคิดไหมตอนนั้น ว่าจะขายหมด หรือว่าตอนนั้นก็หวั่น ๆ ว่าจะขายหมดไหม
ตอบ : (หนูนา) แอบหวั่น ๆ อยู่ว่าจะขายหมดไหม
ถาม : พอขายเสร็จ เอามาคุยกันไหม เราขายได้ น่าจะทำขายต่อนะ มีเอามาคุยกันไหม
ตอบ : (นูรีต้า) มีค่ะ ตอนนั้น แต่หลัง ๆ ก็ไม่มีใครช่วยแล้ว พอดีเห็ดหมดด้วย
ถาม : แต่ที่เราเอาไปขายสองสามกิโลกรัม มันก็คือเห็ดสามร้อยก้อนที่เราทำกันใช่ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : เป็นเห็ดชุดเดียวกับที่เรานั่งทำสามร้อยก้อนใช่ไหม
ตอบ : ค่ะ
ถาม : ถือว่าทำได้เยอะเลยนะ ตอนที่ไปขายเราเป็นคนไปติดต่อขอพื้นที่ขายเอง หรือว่าพี่เลี้ยงจัดการให้ แล้วเราไปขายอย่างเดียว
ตอบ : (นูรีต้า) พี่เลี้ยงค่ะ
ถาม : ออกแบบร้านไหม มีโลโก้ มีเขียนตัวหนังสือ
ตอบ : (นูรีต้า) ก็คิดอยู่ค่ะ แต่ว่ายังไม่ได้ทำ
ถาม : หน้าร้านเป็นแบบไหน มีโต๊ะธรรมดาเฉย ๆ
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ มีโต๊ะตั้งเฉย ๆ
ถาม : หลังจากนี้จบกิจกรรมแล้ว หรือว่าเรายังทำกิจกรรมอะไรต่อไหม
ตอบ : (นูรีต้า) หมดกิจกรรมแล้วค่ะ
ถาม : อยากรู้ว่าตอนที่เราขายของ มันมีปัญหาอะไรไหม ที่เรารู้สึกว่าเป็นปัญหา
ตอบ : (หนูนา) ทั้งแดดทั้งฝน
ถาม : ตอนเช้ามีแดด ตอนเย็นมีฝนเหรอ
ตอบ : (หนูนา) ค่ะ
ถาม : ทำไม แล้วมันเป็นปัญหาอะไรสำหรับเราที่เราคิดว่ามันคือปัญหา
ตอบ : (นูรีต้า) มันไม่มีหลังคาค่ะ
ถาม : มันเป็นโล่ง ๆ เลยใช่ไหม
ตอบ : (หนูนา) ค่ะต้องคอยยกหลบ
ถาม : มีอย่างอื่นไหม ที่เป็นปัญหา เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือดี
ตอบ : (นูรีต้า) สนุกค่ะ
ถาม : ตอนนั้นได้กี่บาท จำได้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) หนึ่งพันบาทค่ะ
ถาม : ดีใจไหม ได้เงินขายเห็ด
ตอบ : (หนูนา) ก็ดีใจค่ะ
ถาม : ให้ผู้ปกครองไปช่วยอุดหนุนไหม
ตอบ : (หนูนา) มีค่ะ บังคับค่ะ
ถาม : วันงานพ่อแม่เราเห็นไหม ว่าเราไปขายของ
ตอบ : เห็นค่ะ
ถาม : เขาเป็นอย่างไรกันบ้าง ดีใจไหม
ตอบ : (หนูนา) ยิ้มค่ะ
ถาม : อุดหนุนไหม หรือยิ้มอย่างเดียว
ตอบ : (นูรีต้า) อุดหนุนด้วยค่ะ
ถาม : แสดงว่าเวลาเราทำกิจกรรมเขาก็รู้ใช่ไหม ว่าเรามาทำกิจกรรมอันนี้ สนับสนุนไหม
ตอบ : (นูรีต้า) สนับสนุนค่ะ
ถาม : เวลามีปัญหาตอนทำโครงการ ปรึกษาที่บ้านไหม
ตอบ : ปรึกษาค่ะ
ถาม : ส่วนใหญ่ปรึกษาเรื่องอะไร
ตอบ : (นูรีต้า) ไม่มีรถค่ะ เวลานัดกันอะไรแบบนี้
ถาม : แล้วทำอย่างไร แม่มาส่งให้เหรอ
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : หลังจากขายของมีทำอะไรต่อไหม ไม่มีแล้วใช่ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) เริ่มหมดแล้ว
ถาม : แล้วเราคิดไหม ว่าอยากทำก้อนเห็ดเพิ่มเพื่อทำแหนมขาย
ตอบ : (หนูนา) ตอนนั้นยังไม่คิดค่ะ
ถาม : แสดงว่าตอนนี้เริ่มคิด
ตอบ : (หนูนา) ค่ะ
ถาม : ตอนนี้เริ่มคิดว่าอยากจะทำแหนมเห็ดขายอีกแบบนี้เหรอ
ตอบ : ค่ะ
ถาม : อยากมีรายได้ใช่ไหม
ตอบ : (หนูนา) ใช่ค่ะ
ถาม : เป็นกิจกรรมในอนาคตที่จะทำเร็ว ๆ นี้หรือเปล่า
ตอบ : (นูรีต้า) น่าจะเร็ว ๆ นี้ค่ะ
ถาม : กิจกรรมที่เราทำมา มีตั้งแต่สำรวจข้อมูล ลงพื้นที่ ลองลงมือทำด้วยตัวเอง ทำเห็ดแปรรูปแล้วเอาไปขาย ทีนี้พี่อยากรู้ว่าถ้าถามขั้นตอนทั้งหมดที่พูดมา สามคนนี้ กิจกรรมที่เราประทับใจมากที่สุดของแต่ละคน ชอบอะไรกันบ้าง
ตอบ : (นูรีต้า) แปรรูปเห็ดค่ะ
ถาม : นูรีตาชอบตอนแปรรูปเห็ด ซานิตาชอบอะไรนะ
ตอบ : (ซานิตา) ลงพื้นที่ค่ะ
ถาม : หนูนา
ตอบ : (หนูนา)ชอบตอนขายของ
ถาม : ทำไมนูรีต้าถึงชอบตอนแปรรูป
ตอบ : (นูรีต้า) มันสนุกดีค่ะ
ถาม : ตรงไหนที่เรารู้สึกว่าสนุกที่สุดเลย
ตอบ : (นูรีต้า) ตอนที่ฉีกเห็ด ต้มเห็ด
ถาม : รู้สึกว่ามันสนุก เพราะอะไร
ตอบ : (นูรีต้า) รู้สึกว่ามันง่ายดี
ถาม : ที่เหลือมันยากหมดเลยใช่ไหม โดยเฉพาะตอนมัด
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : ตอนที่เราฉีกเห็ดต้มเห็ด อุปกรณ์พวกวัสดุอะไรมีครบใช่ไหม ตอนที่เราทำแหนม
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : ต้องฉีกเห็ดให้มันเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใช่ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : เราเลยรู้สึกว่าประทับใจตรงนี้ เพราะมันง่ายสุดในการทำแปรรูป
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : อย่างซานิตาชอบตอนลงพื้นที่ ทำไมหนูถึงชอบตอนลงพื้นที่
ตอบ : (ซานิตา) ได้ไปหาคนมาก ๆ
ถาม : จริง ๆ เราเป็นคนชอบคุยเหรอ ชอบคุยแบบที่ไม่ต้องจับไมค์ใช่ไหม
ตอบ : (ซานิตา) ค่ะ
ถาม : ชอบตอนลงพื้นที่ อย่างตอนลงพื้นที่เรารู้สึกว่าเราประทับใจอะไรที่สุดในการลงพื้นที่
ตอบ : (ซานิตา) ตอนไปถามเขา
ถาม : เขาก็ให้ข้อมูลกลับมาใช่ไหม
ตอบ : (ซานิตา) ค่ะ
ถาม : แล้วอะไรยากสุดสำหรับเรา ตอนลงพื้นที่
ตอบ : (ซานิตา) การเดินทาง
ถาม : มันไกลเหรอ แต่ละหมู่บ้าน
ตอบ : (ซานิตา) มันไม่ไกล แต่ว่ารถมันไม่พอกับจำนวนคน
ถาม : เราแก้ไขอย่างไร
ตอบ : (ซานิตา) ไปขอป๊ะกับม๊ะมาค่ะ เพื่อลงพื้นที่
ถาม : แต่เขาก็ให้ใช่ไหม
ตอบ : (ซานิตา) ให้ค่ะ
ถาม : ก็ผ่านไปได้ด้วยดี อย่างหนูนาชอบตอนขายของ ทำไมถึงชอบตอนขายของ
ตอบ : (หนูนา) มันสนุกค่ะ
ถาม : สนุกตรงไหน ที่คิดว่าเราสนุกที่สุด ตอนที่ได้จับเงินใช่ไหม หรือสนุกตรงที่ได้ขายของ ได้คุยกับคน ชอบตอนไหน
ตอบ : (หนูนา) ตอนที่ได้คุยกับคน
ถาม : ลูกค้ามีถามเยอะไหม
ตอบ : (หนูนา) มีค่ะ
ถาม : แต่เราก็ตอบได้
ตอบ : (หนูนา) ตอบได้ค่ะ
ถาม : ทั้งสามคนคิดว่าทำโครงการนี้เสร็จแล้ว ถามตัวเองก่อนนะ คิดว่ามันเกิดประโยชน์อะไรกับตัวเองบ้าง
ตอบ : (ซานิตา)ได้ความรู้ค่ะ
ถาม : เรื่องอะไร ที่คิดว่าเป็นความรู้สำหรับเรามากที่สุดเลย
ตอบ : : (ซานิตา)เกี่ยวกับการแปรรูปเห็ด และการทำก้อนเห็ด
ถาม : จากที่ไม่เคยรู้มาก่อน ตอนนี้ถ้าถามก็ตอบได้ใช่ไหม
ตอบ : : (ซานิตา) ค่ะ
ถาม : ซานิตาเหมือนกันไหม หรือมีความรู้อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับเราหลังจากทำ
ตอบ : (ซานิตา) เหมือนกันค่ะ
ถาม : เอาที่ไม่เหมือนกันสักหนึ่งอย่าง ที่คิดว่าเกิดผลกับเรา กล้าแสดงออกมากขึ้นไหม
ตอบ : (ซานิตา) กล้าแสดงออกมากขึ้น
ถาม : ก่อนหน้าเป็นอย่างไร
ตอบ : (ซานิตา) กลัวไมค์ ไม่กล้าคุยกับใคร อยู่แต่ที่บ้าน ไม่ชอบไปไหน
ถาม : พอมาทำโครงการนี้เป็นอย่างไร เราออกจากบ้านมากขึ้นไหม
ตอบ : (ซานิตา) ทุกวันค่ะ
ถาม : หนูนาล่ะ ทำโครงการนี้แล้วคิดว่ามันเกิดผลอะไรกับตัวเองบ้าง เราได้อะไรบ้างจากการทำโครงการนี้
ตอบ : (หนูนา) ได้ความรู้ในเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
ถาม : เช่น อะไรบ้าง
ตอบ : (หนูนา) การทำแหนม
ถาม : เราคิดว่าเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันเราได้ไหม เอาไปเล่าให้พ่อแม่ฟังไหม
ตอบ : (หนูนา) เล่าค่ะ
ถาม : บอกให้แม่ลองทำไหม เพราะที่บ้านเราก็เพาะเห็ดอยู่แล้ว
ตอบ : (หนูนา) บอกค่ะ
ถาม : แม่สนใจไหม
ตอบ : (หนูนา) สนใจค่ะ ทำตามค่ะ
ถาม : แม่ทำกินหรือเอาไปทำขาย
ตอบ : (หนูนา) ทำกินค่ะ
ถาม : แล้วเราคิดว่า อันนี้สำหรับตัวเราที่เราคิดว่าเราได้จากโครงการนี้ ถ้าถามตัวชุมชนล่ะ เราคิดว่าชุมชนได้อะไรจากที่เราทำโครงการนี้ไหม ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้
ตอบ : (หนูนา) ไม่ได้
ถาม : ตอนที่เรานั่งทำแหนมเห็ดกัน คนในชุมชนเขาเห็นไหมว่าเรานั่งทำ
ตอบ : (นูรีต้า) เห็นค่ะ แต่ไม่สนใจ
ถาม : มีมาถามไหมว่าทำอะไรกัน
ตอบ : (นูรีต้า) มีบ้างบางคนค่ะ
ถาม : มาช่วยทำไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ไม่ค่ะ
ถาม : ส่วนใหญ่จะเป็นเรา เขาแค่มาดูเฉย ๆ ใช่ไหม ว่าทำอะไรกัน แค่นั้น เรารู้สึกอยากให้ชุมชนมาให้ความร่วมมือกับเราไหม หรือไม่เป็นไร เราทำกันเอง
ตอบ : (นูรีต้า) ก็อยากให้ชุมชนมาค่ะ
ถาม : สมมติว่าเราอยากให้ชุมชนเขามา เราอยากให้เขามาทำอะไรกับเราบ้าง ถ้าเป็นไปได้ ที่เราบอกว่าอยากให้ชุมชนเข้ามาช่วยเราบ้างใช่ไหม พี่ก็เลยถามว่าอยากให้เขามาช่วยเราเรื่องอะไร
ตอบ : (นูรีต้า) เรื่องการโฆษณาแหนมค่ะ
ถาม : ให้คนในชุมชนช่วยโฆษณาแหนมของเราให้บ้าง บอกว่าที่นี่กลุ่มนี้เขาทำแหนม แบบนี้ใช่ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : เราไม่ทำเพจในเฟซบุ๊กล่ะ
ตอบ : (นูรีต้า) ทำแล้วค่ะ
ถาม : นอกจากให้เขาช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องแหนม อยากให้เขาเข้ามาช่วยอะไรอีกไหมในชุมชน
ตอบ : (นูรีต้า) ไม่ค่ะ
ถาม : อย่างมากก็ช่วยโฆษณาแหนมให้หน่อยเถอะ จะได้มีคนมาซื้อแหนมของเรา ให้เขามาอุดหนุนได้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ได้ค่ะ
ถาม : ยินดีใช่ไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : ที่เราทำโครงการนี้มีใครเข้ามาช่วยมาสนับสนุนเราไหม หรือว่าเราทำกันเองเสียส่วนใหญ่
ตอบ : (นูรีต้า) ทำกันเองค่ะ
ถาม : รู้สึกท้อไหม ทำกันเองสี่ห้าคน
ตอบ : (นูรีต้า) ท้อเหมือนกันค่ะ ก็มีบ้างค่ะ
ถาม : เรื่องอะไรที่ทำให้เราท้อใจมากที่สุด
ตอบ : (นูรีต้า) การนำเสนองาน
ถาม : มันเป็นอย่างไร เพราะว่าเราอายเราเขินเหรอ
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : ถ้าเราเขินเราอายตอนนำเสนองาน แต่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรามีวิธีการจัดการความอายความกลัวเราอย่างไรบ้าง
ตอบ : (นูรีต้า) ให้เพื่อนยืนรอบค่ะ คนพูดต้องอยู่ตรงกลาง แล้วก็ให้เพื่อนถือไมค์ให้ค่ะ
ถาม : นี่คือวิธีการแก้ไขของเราใช่ไหม ใครเป็นคนคิดสูตรนี้ขึ้นมา
ตอบ : (นูรีต้า) หนูค่ะ
ถาม : ถ้านำเสนอจะมีสมาชิกทั้งหมดห้าคน ทุกคนต้องยืนด้วยกัน ถ้าใครนำเสนอต้องมายืนตรงกลาง แล้วให้เพื่อนอีกคนถือไมค์ให้ด้วย แล้วมันได้ผลไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ได้ผลค่ะ
ถาม : นี่คือวิธีการแก้ปัญหาของเรา น่ารักดี โอเค ให้เราลองคิดสิว่ามีอะไรในตัวเองที่เรารู้สึกว่าตัวเราเปลี่ยนแปลงไป อาจจะเป็นเรื่องของความรู้ หรือเป็นเรื่องการกล้าแสดงออก
ตอบ : (นูรีต้า) การตรงต่อเวลาค่ะ
ถาม : นูรีต้าเป็นเรื่องการตรงต่อเวลา ที่เรารู้สึกว่าเราได้ เราเปลี่ยนไป ทำไมเราถึงคิดว่าเรื่องการตรงต่อเวลาสำหรับเราเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เราเป็นอย่างไร
ตอบ : (นูรีต้า) ก่อนหน้านี้เวลานัดทำอะไร หนูจะทำช้ากว่าเพื่อน พอมาทำโครงการนี้ หนูจะมาตรงต่อเวลาเลย ไม่อยากให้คนอื่นรอค่ะ
ถาม : ช่วงแรก ๆ เราก็มาตรงต่อเวลาไหม หรือว่ายังไม่
ตอบ : (นูรีต้า) ยังไม่มาตรงต่อเวลาค่ะ
ถาม : แล้วอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่า ไม่ได้แล้ว เราต้องมาตรงต่อเวลานะ มันมีเหตุการณ์อะไรไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ไม่ค่ะ
ถาม : แค่อยู่ดี ๆ ก็คิดว่าไม่ได้แล้ว ต้องมาตรงต่อเวลา
ตอบ : (นูรีต้า) ค่ะ
ถาม : คนอื่นทำกิจกรรมมา รู้สึกไหมว่ามีอะไรที่ตัวเองเปลี่ยนไปบ้าง หนูนา
ตอบ : (หนูนา) การพูดค่ะ
ถาม : ก่อนหน้านี้การพูดของหนูนาเป็นอย่างไรบ้าง
ตอบ : (หนูนา) ไม่กล้าพูดกับคนอื่นเลยค่ะ
ถาม : ปกติเราไม่พูดกับคนแปลกหน้าอยู่แล้วใช่ไหม
ตอบ : (หนูนา) ค่ะ
ถาม : แล้วพอมาตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้าง
ตอบ : (หนูนา) พูดมากค่ะ
ถาม : พูดกับทุกคนเลยใช่ไหม
ตอบ : (หนูนา) ค่ะ
ถาม : เราคิดว่าการพูดของเราที่เรากล้าพูดกับคนอื่นมากขึ้น มันส่งผลกับตัวเองไหม
ตอบ : (หนูนา) ส่งผลค่ะ
ถาม : เป็นอย่างไรบ้าง ที่เราคิดว่าเราได้จากการเป็นคนที่พูดเยอะขึ้น
ตอบ : (หนูนา) เราได้รู้ข่าวสารเยอะขึ้น
ถาม : ข่าวสารจากไหน
ตอบ : (หนูนา) จากผู้อื่น
ถาม : ถ้าเราไปเจอคนในชุมชน เราพูดเยอะขึ้นไหม
ตอบ : (หนูนา) เยอะขึ้นค่ะ
ถาม : กล้าถาม กล้าพูด เวลานำเสนอกล้าพูดเยอะขึ้นไหม
ตอบ : (หนูนา) นิดหนึ่งค่ะ
ถาม : อย่างเรื่องการกล้าพูด เราเอาไปใช้ในชั้นเรียนของเราไหม ในชีวิตประจำวัน
ตอบ : (หนูนา) เอาไปใช้ค่ะ
ถาม : ยกตัวอย่างให้ฟังหน่อย ว่าเอาไปใช้อย่างไร
ตอบ : (หนูนา) หนูได้เอาไปใช้นำเสนองานในห้องเรียน จากเมื่อก่อนอยู่ข้างหลังเพื่อน ตอนนี้กล้าพูดเอง
ถาม : อย่างซานิตาคิดว่าทำโครงการมาทั้งหมด อะไรสำหรับเราที่เรารู้สึกเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด
ตอบ : (ซานิตา) การกล้าแสดงออก
ถาม : กล้าแสดงออกในด้านไหน ที่ต้ารู้สึกว่าต้าเปลี่ยนไป
ตอบ : (ซานิตา) การพูด การจับไมค์
ถาม : ถ้าเทียบก่อนหน้านี้เราเป็นอย่างไร
ตอบ : (ซานิตา) ไม่กล้าเลย
ถาม : แต่ตอนนี้จับไมค์ได้ ไม่กลัว เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันบ้างไหม ในชั้นเรียนเป็นอย่างไรบ้าง
ตอบ : (ซานิตา) เอาไปใช้อยู่เหมือนกัน
ถาม : เวลานำเสนองาน เรากล้าพูด กล้าจับไมค์ขึ้น
ตอบ : (ซานิตา) ค่ะ
ถาม : คุณครูแปลกใจไหม ว่าทำไมถึงกล้า
ตอบ : (ซานิตา) แปลกใจค่ะ
ถาม : มีอะไรบ้างไหม ที่เรารู้สึกว่าก่อนหน้านี้เราไม่เคยทำมาก่อนเลย แล้วได้มาทำในโครงการนี้
ตอบ : (ซานิตา) หนูได้เรียนรู้เรื่องการสำรวจแล้วก็การแยกข้อมูลวิธีการเพาะเห็ด เพื่อเวลาไปนำเสนองานจะได้เข้าใจง่ายขึ้น
ถาม : เราเข้าใจมันใช่ไหม ลองเล่าให้พี่ฟังหน่อยได้ไหม แต่ละอาร์มันคืออะไร
ตอบ : (ซานิตา) อาร์หนึ่งเป็นการสำรวจ อาร์สองเป็นการเริ่มลงมือทำ อาร์สามเริ่มทำค่ะ
ถาม : ใครเป็นคนบอกเรื่องอาร์
ตอบ : (ซานิตา) บังเชษฐ์ค่ะ
ถาม : ช่วยเราได้เยอะไหม
ตอบ : (ซานิตา) เยอะค่ะ
ถาม : ที่คิดว่าช่วยได้เยอะที่สุดเลย คือเรื่องอะไร
ตอบ : การช่วยกัน
ถาม : อันนี้คือเป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน แล้วได้มาทำในโครงการนี้เนอะ มันเอาไปใช้ในชั้นเรียนได้ไหม
ตอบ : (ซานิตา) ได้ค่ะ
ถาม : ได้ลองเอาไปใช้กันหรือยัง
ตอบ : (ซานิตา) เอาไปแล้วบ้าง เวลาจะนำเสนองาน
ถาม : เวลาเรานำเสนองาน ก็เอาข้อมูลอาร์หนึ่งอาร์สองมาจัดเรียงแล้วนำเสนอ มันจะเป็นขั้นตอนใช่ไหม
ตอบ : (ซานิตา) ค่ะ
ถาม : เมื่อกี้ที่ถามเรื่องการต่อยอด จริง ๆ เราก็อยากจะเพาะเห็ดเพิ่มอยู่เหมือนกันใช่ไหม
ตอบ : (นูรีต้า)ค่ะ
ถาม : พูดคุยกันหรือยัง ประชุมกันหรือยัง
ตอบ : ยังค่ะ
ถาม : แต่สามคนนี้ก็คิดเหมือนกันว่าอยากจะทำต่อใช่ไหม
ตอบ : ค่ะ
ถาม : อันนี้ถามเรื่องความประทับใจของโครงการ Active Citizen ถ้าเราไม่ได้มาทำโครงการนี้ เราคิดว่าเราจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ตอบ : ก็ไม่กล้าแสดงออก เรียงข้อมูลไม่ถูกค่ะ
ถาม : รู้สึกดีใจไหมที่ได้มาทำโครงการนี้
ตอบ : ดีใจค่ะ
ถาม : ให้ทำต่อทำไหม
ตอบ : คิดก่อนค่ะ
ถาม : ทำไมถึงคิดก่อน ติดเรื่องอะไร
ตอบ : มันตรงกับเปิดเทอมพอดีค่ะ
ถาม : ถ้าตรงกับปิดเทอมพอดี แล้วเขาให้เราทำโครงการ สมมติว่าให้ทำ เราอยากจะทำเรื่องเพาะเห็ดไหม หรือว่าอยากทำโครงการอื่น
ตอบ : อยากทำโครงการอื่นอีก
ถาม : เพราะอะไร อยากทำอะไรใหม่ ๆ ใช่ไหม
ตอบ : ใช่ค่ะ
ถาม : ช่วงแรก ๆ ก่อนหนูเลือกทำโครงการเห็ด พวกบังมักจะถามเวลาทำโครงการ ว่าชุมชนเรามีปัญหาอะไร ถึงเลือกทำโครงการนี้ พี่ก็เลยอยากถามน้องว่า ที่ทำโครงการเห็ดมันช่วยแก้ปัญหาอะไรในชุมชนเรา หรือว่าแค่เราอยากทำเฉย ๆ
ตอบ : อยากทำค่ะ
ถาม : แต่ก็ยังไม่ได้ศึกษาชุมชนใช่ไหม ว่าตอนนี้ชุมชนมีปัญหาอะไรบ้าง แค่อยากมีกิจกรรมที่มาทำด้วยกัน
ตอบ : ค่ะ
ถาม : แล้วปกติเราได้ทำกิจกรรมอะไรพวกนี้บ้างไหม
ตอบ : ไม่ค่ะ
ถาม : เหมือนบ้านใครนะ ทำเห็ด
ตอบ : บ้านหนูนาค่ะ
ถาม : แล้วหนูนาเคยเรียนรู้กับที่บ้านไหม ช่วยพ่อแม่ทำบ้างไหม ก่อนหน้านี้
ตอบ : เคยค่ะ
ถาม : แล้วเราได้เอามาบอกเพื่อนบ้างไหม ความรู้เดิมที่เอามาช่วยเพื่อน
ตอบ : (นูรีต้า)การเพาะเห็ดค่ะ
ถาม : ตอนแรกคือปลูกเห็ดเป็นอย่างเดียวใช่ไหม
ตอบ : ค่ะ
ถาม : ตอนนี้ถ้าให้ทั้งสามคนกลับไปเพาะเห็ดเอง ทำแหนมเอง โดยที่ไม่มีคนบอก ทำได้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า)ได้ค่ะ
ถาม : ตอบเป็นเสียงเดียวกัน ทำได้ โอเค หลังจากทำโครงการแล้ว หนูคิดว่าชุมชนได้ประโยชน์อะไรไหม จากโครงการ
ตอบ : (นูรีต้า)ไม่ค่ะ
ถาม : ยังไม่ได้ แล้วพวกหนูได้ประโยชน์อะไรไหม จากโครงการนี้
ตอบ : (นูรีต้า)ได้ค่ะ
ถาม : ตัวทำโครงการเห็ด ตัวทำแหนมเห็ด ช่วยหนูอย่างไรบ้าง
ตอบ : (นูรีต้า)ช่วยเป็นรายได้เสริม
ถาม : ได้เยอะไหม ที่ผ่านมาที่เราทำ ได้กำไรไหม
ตอบ : (นูรีต้า)ได้ค่ะ
ถาม : เราคิดว่าเราสามารถเอาความรู้เรื่องเห็ดไปทำเป็นอาชีพได้ไหม
ตอบ : (นูรีต้า)ได้ค่ะ
ถาม : หนูเอาเวลาช่วงไหนไปทำกิจกรรม อย่างตอนทำหัวเชื้อเห็ด ทำแหนมเห็ด ก็ใช้เวลาหลายวัน
ตอบ : (นูรีต้า)เสาร์อาทิตย์ค่ะ ช่วงนั้นปิดเทอมด้วยค่ะ
ถาม : พี่ถามต่อนิดหนึ่งนะ ตอนนั้นหนูอยากทำโครงการเห็ดแล้วแหละ ทำไมถึงไม่ไปซื้อเชื้อมาเลยทำไมถึงอยากทำเอง
ตอบ : (นูรีต้า)ซื้อเชื้อมาค่ะ
ถาม : ทำไมไม่ซื้อที่สำเร็จมาเลย จะได้ไม่ต้องมาผสม
ตอบ : (นูรีต้า)อยากศึกษาค่ะ
ถาม : คือตัวเราอยากศึกษา หรือมีใครมาบอกว่าลองทำกันไหม ผู้ใหญ่หรือใครมาบอกไหม
ตอบ : (นูรีต้า)พวกหนูคิดเองค่ะ
ถาม : สุดท้ายสูตรที่เราเอาเพาะเชื้อ เป็นสูตรของใคร หรือเป็นสูตรของพี่เลี้ยง
ตอบ : (นูรีต้า)พี่เลี้ยงค่ะ
ถาม : เราเอาสูตรของพี่เลี้ยง เราไม่ได้เอาสูตรของผู้รู้นะ สูตรของผู้รู้สูตรหนึ่งเขาใช้อีเอ็มใช่ไหม แล้วอีกสูตรหนึ่งมีรัม มีดีเกลือ แล้วมีอะไรอีกไหม
ตอบ : ภูไมค์
ถาม : แล้วก็ยิปซัม มีอีกไหม
ตอบ : (นูรีต้า) ปูนขาว อีเอ็ม แล้วก็น้ำ
ถาม : คือสูตรที่มีอีเอ็ม มันต่างจากสูตรที่ใส่พวกรัมกับดีเกลืออย่างไร
ตอบ : (นูรีต้า)มันเป็นสูตรเดียวกันค่ะ แต่บางคนใส่กากน้ำตาลแทนอีเอ็มค่ะ
ถาม : โอเค เข้าใจแล้ว คือการเลือกระหว่างอีเอ็มกับกากน้ำตาล แล้วสูตรของบ้านหนูนาต่างจากของพี่เลี้ยงไหม
ตอบ : (นูรีต้า)เหมือนค่ะ